กิจกรรมทายอารมณ์จากแผ่นภาพ
1. การเตรียมตัว
1.1 ศึกษาหาความหมายและความสำคัญ
1.2 ศึกษาท่าทางที่เด็กส่วนมากจะแสดงออก
1.3 ศึกษาวิธีการพูดและการอธิบาย เพื่อให้เด็กฟังแล้วเข้าใจ
2. การเตรียมสื่อ
2.1 แผ่นภาพใบหน้า เช่น หน้ายิ้ม หน้าโกรธ และหน้าร้องไห้
3. การจัดกิจกรรม/ขั้นตอนการปฏิบัติกิจกรรม
3.1 ให้เด็ก ๆ นั่งให้เรียบร้อย
3.2 นำแผ่นภาพใบหน้าให้เด็ก ๆ ดูและให้เด็กตอบว่าคืออารมณ์แบบไหน
3.3 ให้เด็กส่งตัวแทนมาเป็นผู้นำ ในการแสดงอารมณ์แล้วให้เพื่อนๆทำตาม
ผลของการจัดกิจกรรม
เด็กๆให้ความร่วมมือดีมาก และอารมณ์ที่เด็กๆชอบมากที่สุด คือ อารมณ์ยิ้มหรือการได้หัวเราะ
เด็กมีความสนใจ และปฏิบัติตามข้อตกลงได้ดี เพราะเด็กๆตั้งใจฟัง และเด็กก็ถามว่ามีกิจกรรมอีกไหม
อยากทำอีก เพราะสนุกดี และได้บอกน้องๆไปว่าถ้าพี่ว่างจะมาทำให้น้องๆอีก ต่างคนก็พากันไปเล่นต่อ
ความรู้สึกของผู้ทำ
คือ เกิดอาการกลัวมากเพราะต้องไปขออนุญาติจากผู้ปกครองก่อน แล้วจึงให้เด็กทำกิจกรรมได้
ตอนทำก็กลัวจะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง แต่ไม่เป็นอย่างที่คิดเด็กๆ น่ารักมากให้ความร่วมมือดี
และเมื่อทำกิจกรรมเสร็จแล้วรู้สึกดีใจ และมีความสุขเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเด็กๆทุกคน
วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551
วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551
วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551
เด็กจะเรียนรู้โดยการเลียนแบบ
การประเมินพฤติกรรมหรือการวัดผลทำได้ 3 วิธี คือ การสังเกต การสนทนา และการดูจากผลงานหรือชิ้นงาน แต่เราจะใช้แบบการสังเกตและการสังเกตจะมีอยู่ 2 ลักษณะ คือ แบบปลายเปิด และแบบปลายปิด แต่ในวัยอนุบาลควรใช้แบบปลายเปิดเพราะจะได้เห็นพัฒนาการของเด็กชัดเจน ในเรื่องของ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน
วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551
วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2551
ความรู้ที่ได้รับ
วันนี้ได้เรียนรู้ว่า เด็กจะเกิดการเรียนรู้ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ซึ่งในวัยทารกนั้นถือว่าเป็นการเจริญเติบโตที่รวดเร็วและเห็นได้ชัดเจนถึงการเปลี่ยนแปลง ของแต่ละช่วงวัย เด็กจะเรียนรู้ภาษาจากครอบครัว จากโรงเรียน และจากชุมชนหรือสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเด็ก ดังนั้นเมื่อเด็กได้เข้ามาอยู่ในโรงเรียน คุณครูจะต้องเป็นที่ไว้วางใจกับตัวเด็ก คือการให้เด็กเชื่อใจและไว้ใจ เช่น คุณต้องมีความอบอุ่น และนุ่มนวล เวลาใกล้ชิดเด็กโดยการโอบกอด ถามประสบการณ์ และมีการตรวจเช็คเด็กด้วยว่าเขาสบายดีไหม
ในการสอนเด็กจะต้องมีกิจกรรมให้เด็กทำ เช่น ตอนเช้าให้เด็กเข้าแถว ออกกำลังกาย เคลื่อนไหวเข้าจังหวะ กิจกรรมศิลปะ เล่นตามมุม พักผ่อน ตอนเย็นให้เด็กทำกิจกรรมกลางแจ้ง และเกมการศึกษา ซึ่งเด็กจะได้เกิดภาษา จากการได้พูดคุยกับเพื่อน จากการที่ฟังคำสั่งหรือคำบรรยายจากครู และสื่อจากรูปภาพต่างๆ หรือของสิ่งอื่นที่เด็กเห็นแล้วเกิดความเข้าใจ
ในการสอนเด็กจะต้องมีกิจกรรมให้เด็กทำ เช่น ตอนเช้าให้เด็กเข้าแถว ออกกำลังกาย เคลื่อนไหวเข้าจังหวะ กิจกรรมศิลปะ เล่นตามมุม พักผ่อน ตอนเย็นให้เด็กทำกิจกรรมกลางแจ้ง และเกมการศึกษา ซึ่งเด็กจะได้เกิดภาษา จากการได้พูดคุยกับเพื่อน จากการที่ฟังคำสั่งหรือคำบรรยายจากครู และสื่อจากรูปภาพต่างๆ หรือของสิ่งอื่นที่เด็กเห็นแล้วเกิดความเข้าใจ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)